ของเล่นใช้ถ่าน Battery Operated toys
เมื่อพูดถึงของเล่นแบบใช้ถ่านใช้ไฟฟ้า น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก เพราะเราจะเห็นของเล่นเหล่านี้ได้ตามห้าง ตามตลาดนัด หรือตามฟุตบาท
ที่มีพ่อค้าแม่ค้านำมาวางขายกัน มีหลายหลายแบบตั้งแต่ ลิงตีฉาบ รถตำรวจ หรือหมีตีกลองและอีกมากมาย
โดยในปี 1946 ผู้ผลิตของเล่นในญี่ปุ่น ได้เริ่มเปลี่ยนการผลิตจากของเล่นไขลานมาเป็นของเล่นแบบใช้ถ่านโดยการใส่มอเตอร์เล็กๆแทน
ทำให้ของเล่นใส่ถ่านสามารถเลียนแบบการเคลื่อนไหวแบบคนหรือสัตว์ได้ ส่วนใหญ่ของเล่นเหล่านี้จะเป็นตัวการ์ตูนดังๆ หุ่นยนต์ หรือยานพาหนะ
และได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดของเล่น ทำให้มีผู้ผลิตหลายแห่ง คิดค้นและผลิตของเล่นใช้ถ่านออกมาเรื่อยๆ จนทำให้ปี 1940-1960 นั้นถือเป็นยุคทองของของเล่นแบบใช้ถ่านนั่นเอง
ของเล่นแบบใช้ถ่านนั้น จะมีตั้งแต่ตัวละครต่างๆ เช่น ป๊อปอาย, บาร์เทนเดอร์ Charlie Weaver,ตำรวจจราจรหรือคุณลุงสูบบุหรี่
หรือที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันอย่างมากก็คือลิงตีฉาบและหมีหรือช้างตีกลอง อีกแบบที่ได้ความนิยมไม่แพ้กันก็คือสัตว์ต่างๆที่เลียนแบบหรือลักษณะเหมือนคน
เช่นหมีซักผ้า,หมีรีดผ้า,หมีสูบบุหรี่ เป็นต้น
นอกจากนั้นพวกของเล่นแบบอวกาศก็ของเล่นที่ทำเงินเป็นอย่างมากในช่วงนั้น รวมถึงของเล่นที่เป็นเครื่องจักรต่างๆเช่นเครื่องซักผ้าและเครื่องครัว
ของเล่นพวกยานพาหนะก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน
ของเล่นแบบใช้ถ่านนั้นมีตั้งแต่ Single action(เคลื่อนไหว1 แบบ) ไปจนถึง 6-8 movements(เคลื่อนไหว 6-8แบบ)เช่นลิงตีฉาบที่ตีฉาบอย่างเดียวหรือลุง bartender ที่มีทั้งเขย่าขวด,ดื่ม,ขยับไปมา เป็นต้น
ผู้ผลิตที่ได้รับความนิยมนั้นมีอยู่หลายเจ้าด้วยกัน อย่างเช่น MARX,CRAGSTAN,ROSKO,TN,NOMURA,ALPS,YONEZAWA,AMICO เป็นต้น
จนในช่วงปี 1970 ของเล่นแบบใช้ถ่านเริ่มได้รับความนิยมลดลง รวมถึงปัญหาจากผู้ผลิตเกี่ยวกับค่าแรงและข้อห้ามต่างๆในการผลิตของเล่น เช่น ของเล่นดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือ เล่นพนัน เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
จึงทำให้ตลาดของเล่นแบบใช้ถ่านยุคบุกเบิกนั้นสิ้นสุดลง
จนในช่วงปี 1970 ของเล่นแบบใช้ถ่านเริ่มได้รับความนิยมลดลง รวมถึงปัญหาจากผู้ผลิตเกี่ยวกับค่าแรงและข้อห้ามต่างๆในการผลิตของเล่น เช่น ของเล่นดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือ เล่นพนัน เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
จึงทำให้ตลาดของเล่นแบบใช้ถ่านยุคบุกเบิกนั้นสิ้นสุดลง
และหลังจากช่วงปี 1990 เป็นต้นมา กระแสของเล่นเก่า ของเล่นสังกะสีและของเล่นใช้ถ่านก็ได้กลับมารับความนิยมอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน
Article by : gfucollectible.com